คำถาม-คำตอบที่ควรรู้
ธัญญ่าว่ามีหลาย ๆอย่างที่หลาย ๆคนอาจจะยังเข้าใจผิด เอาเป็นว่า วันนี้ธัญญ่าลองมารวบรวมให้ดู ถ้าใครเข้าใจถูกก็แล้วไป แต่เดา ๆ ว่า คงถูกใจหลาย ๆคนนะค่ะ
ออแพร์ อเมริกา สามารถขอวีซ่ามาเอง ไม่ต้องผ่านเอเจนซี่ หรือจะขอเป็น work permit มาก็ได้
ที่ถูกต้องคือ โครงการออแพร์ ของเมกา ต้องทำผ่านเอเจนซี่เท่านั้น ถึงจะได้วีซ่าเจวัน อยู่อย่างถูกตามกฏหมาย และทำออแพร์ได้อย่างถูกต้อง และออแพร์ อาชีพนี้ที่เมกา ไม่สามารถขอ work permit ได้ค่ะ
ออแพร์เป็นหญิงเท่านั้น
ที่ถูกคือ หญิงก็ได้ชายก็ได้ โครงการออแพร์ เมกา ไม่จำกัดเพศของผู้สมัคร แต่ว่าผู้ชายหาโฮสยากมาก และเวลาการหาครอบครัวได้ อาจจะใช้เวลาเป็นปี เพราะว่าออแพร์ผู้ชาย หาครอบครัวได้ยากกว่าออแพร์ผู้หญิงดังนั้น เอเจนซี่ในเมืองไทยจึงรับเฉพาะผู้หญิง แต่ขณะนี้ก็มีออแพร์ชายไทยหลายคนมาทำงานเป็นออแพร์ที่ประเทศอเมริกาแล้ว แต่ละคนกว่าจะได้ครอบครัวแม็ทช์ก็รอกันนานเป็นเกือบปีทีเดียว
ถ้าเป็นออแพร์ กับเอเจนซี่อื่นแล้ว พอหมดโครงการ กลับมาเมืองไทย สามารถมาสมัครเป็นออแพร์ กับเอเจนซี่ใหม่ได้
ที่ถูกคือ โครงการออแพร์ อเมริกา บุคคลหนึ่งชีวิต มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าออแพร์ต้องการไปเป็นออแพร์ประเทศอื่น ๆ สามารถทำได้แน่นอน
เว็บไชต์ หาโฮสเอง เช่น www.greataupair.com เป็นเอเจนซี่ที่สามารถหาโฮส และประสานงานให้เราไปเป็นออแพร์ที่อเมริกาได้อย่างถูกฏหมาย
ที่ถูกคือ เว็บไชต์หาโฮสเอง เช่น เว็บไชต์ชื่อดัง www.greataupair.com และอีกหลาย ๆเว็บไชต์ที่มีลักษณะแบบนี้ เว็บไชต์พวกนี้ ไม่ใช่เอเจนซี่ แต่สามารถเป็นช่องทางที่ทำให้เราสามารถเจอะเจอกับครอบครัวเมกันที่เขาต้องการออแพร์ได้ เมื่อเว็บไชต์เหล่านี้ไม่ใช่เอเจนซี่ จึงไม่สามารถ ประสานงานเรื่องเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้นเพื่อดำเนินการขอวีซ่าให้กับออแพร์ได้ ดังนั้น หากใครสามารถหาครอบครัวให้ตนเองได้ด้วยเว็บไชต์ประเภทนี้ ออแพร์จะต้องบอกให้ครอบครัวไปสมัครกับเอเจนซี่ของตนเอง แล้วทำเรื่องรับไปทำงาน เพื่อจะได้เป็นออแพร์ อเมริกา อย่างถูกกฏหมายต่อไป
ออแพร์ทำงานได้สองปี ได้วีซ่าสองปีจากเมืองไทยมาเลย
ที่ถูกคือ ออแพร์ มีสิทธิ์ขอร้องต่อการทำงาน สูงสุดเพิ่มได้อีกหนึ่งปี ฉะนั้นรวมปีแรกก้เป็นสองปี แต่การร้องขอจะทำเรื่องต่อปีที่สอง กระทำกันในเมกา ฉะนั้น วีซ่าที่ได้มาจากเมืองไทย ในขณะนี้ ที่ออแพร์ขยายโอกาสปีที่สองยังเป็นโครงการทดลองนำร่องอยู่ ออแพร์ทุกคนจึงได้วีซ่ามาคนละหนึ่งปีเท่านั้นค่ะ และหากว่าออแพร์คนใดต้องการต่อปีทีสอง ต้องทำก่อนที่โครงการนำร่องจะสิ้นสุดลงผ่านทางเอเจนซี่ของตนเอง
ถ้าเราได้วีซ่าเจวันในฐานะออแพร์มาปีหนึ่ง แล้วเรามาทำงานกับโฮสได้สักสองสามเดือนแล้วเราออกไปจากโครงการ ไปทำที่อื่น (ไม่ว่าจะร้านอาหารไทย หรือ ทำงานกับโฮสที่หาเองและให้เงินสูงๆ กว่าที่ได้จากการเป็นออแพร์ในโครงการ) แต่ว่าเราจะอยู่เมกาทำงานนอกโครงการแค่ปีเดียวเท่านั้นละ พอครบกำหนดวีซ่าที่ให้เราก็จะกลับเมืองไทย อย่างนี้เราไม่มีปัญหา ถือว่าเราเข้าออกประเทศตามวีซ่าที่เขากำหนด
ที่ถูกคือ ออแพร์ในโครงการออแพร์เมกา ไม่สามารถทำงานที่อื่นได้ ไม่ว่าจะ part-time หรือ full-time และ เมือใดก็ตามที่ออแพร์ ออกจากโครงการไป (ไม่ทำงานกับโฮสที่รับคุณมา) หรือแม้กระทั่งคุณออกจากบ้าน แล้วไม่บอกกล่าวว่าไปไหน ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง คุณยังไม่กลับ หรือติดต่อมา ครอบครัวมีสิทธิ์โทรแจ้งเอเจนซี เพื่อให้เอเจนซี่ระงับวีซ่าคุณทันที ในกรณีที่คุณออกจากโครงการ คุณไม่ได้กลับเมืองไทย ไม่ว่าจะเพราะเหตุใดก็ตาม เมื่อนั้น เขาก็แจ้งสถานทูตไทย สั่งตัดอายุวีซ่าทันที่ (reject) และเท่ากับว่าคุณอยู่ในประเทศนั้นอย่างผิดกฏหมาย
หากเราโดดจากโครงการ ใครก็มาจับเราไม่ได้
ที่ถูกต้องคือ ถูกต้องค่ะ หากใครก็ตามมาเมกาแล้ว หากคิดจะหนีออกจากโครงการไปที่ไหน ๆ ก็ไม่มีใครไปตามจับคุณได้แน่นอน เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน แต่ถ้าเอเจนซี่ที่เมการู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน เขาก็จะประสานงานกับ ฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง (ภาษาชาวบ้านเรียกว่า พวกอิม) เพื่อตามจับคุณได้ในที่สุด และสิ่งที่เขาทำแน่นอนก็คือ แจ้งขึ้นบัญชีหนังดำที่สถานทูตประเทสไทย แล้วลงโทษแก่วงศ์ตระกูลนี้ต่อไป ด้วยการไม่ให้วีซ่าแก่ผู้ที่นามสกุลนี้ หรือเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ไม่เคารพกฏหมายเขาไปแทน ขณะนี้ สถานทูตของประเทศอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตเรีย ญี่ปุ่น มีการประสานเชื่อมโยง ข้อมูลผู้ขึ้น Black list นั้นเท่ากับว่า ไม่ใช้แค่เพียงประเทศอเมริกาประเทศเดียวที่จะเสียสิทธิ์การเข้าประเทศส แต่รวมถึงประเทศในเครือเหล่านั้นด้วย
คนที่ถือวีซ่าเจวัน ออแพร์ เวลาหมดโครงการ กลับเมืองไทยไป จะต้องพำนักอยู่ในเมืองไทย เป็นเวลาสองปีก่อน แล้วถึงจะมีสิทธิ์ขอวีซ่าเข้ามาเมกาใหม่ได้
ที่ถูกต้องคือ วีซ่าเจวัน J-1 เป็นวีซ่าที่ให้กับคนที่มาในโครงการหลายแบบ เช่น นักเรียนทุนวิจัย นักเรียนในโครงการ work & travel นักเรียนแลกเปลี่ยน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นกฏอยู่แล้วว่า คนที่ได้วีซ่า J-1นี้ เมื่อจบโครงการแล้ว จะต้องพำนักที่ประเทศบ้านเกิด เป็นเวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสองปี ถึงจะขอวีซ่าเข้ามา อเมริกาใหม่ได้ แต่ว่า วีซ่าเจวัน สำหรับโครงการออแพร์ เป็นตัวพิเศษ รัฐบาลเมกัน กำหนดไว้เลยบนหน้าวีซ่าที่เขาออกให้เลยนะค่ะ เขียนเป็นคำอธิบายข้อยกเว้นไว้เลยว่า ออแพร์ ถ้าจบโครงการแล้ว ไม่จำเป้นต้อง กลับไปพำนักที่ประเทศบ้านเกิดของตนเป็นเวลาสองปี ผู้ที่เป็นออแพร์ ด้วยวีซ่าเจวัน หากกลับบ้านเกิดไปแล้ว สามารถขอวีซ่ากลับเข้ามาเมกาเมื่อไหร่ก็ได้
สำหรับวีซ่าเจวัน ในโครงการ work and travel ก็ไม่ต้องรอสองปีนะค่ะ เพราะว่าที่หน้าวีซ่าก็คงจะระบุไว้เช่นเดียวกัน กับวีซ่าขอออแพร์ว่าละเว้น ในเรื่องนี้ค่ะ
คนที่เปลี่ยนสถานภาพจากออแพร์ เป็นอย่างอื่น จำเป็นต้องอยู่ ในเมกาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าออกไปแล้วจะเข้ามาอีกไม่ได้ ?
ที่ถูกต้องคือ ออแพร์ สามารถมีสิทธ์ร้องขอเปลี่ยนสถานภาพ จากออแพร์ เป็น อย่างอื่น เช่น สถานภาพนักเรียน วีซ่า F-1 ได้ แต่ว่า ที่จำเป็นต้องอยู่ให้นานที่สุด ไม่ใช่เพราะว่า ถ้าออกเมกาไปแล้วจะกลับมาไม่ได้อีก แต่เป็นเพราะว่า ออแพร์ตามโครงการจะต้องกลับ แต่ว่า ออแพร์ ได้ทำเรื่องร้องขออยู่ต่อ เพื่อทำธุระบางอย่างให้เสร็จ เช่น กรณีของเป็นนักเรียน ก็เพื่อขอเรียนให้จบ จบแล้วจึงกลับ ดังนั้น เมื่อใดที่ออแพร์ ออกจากประเทศอเมริกาไป เมื่อนั้น สถานทูตจะถือว่า คุณได้สำเร็จ ความมุ่งหมายตามคำที่ร้องขอแล้วนั้นเอง หากคุณอยากกลับเข้ามาเมกา ก็ต้องขอทำเรื่องใหม่ ซึ่งสิทธิ์ที่คุณจะได้รับวีซ่า ก็ประเมินกันใหม่หมดค่ะ