ข้อแนะนำยามสัมภาษณ์กับโฮสต์
 |
เวลาทีแสนจะตื่นเต้นทีสุดของการรอคอยมาเป็นออแพร์ช่วงเวลาหนึ่งนั้นก็คือ การได้รับการติดต่อจากโฮสต์ การสัมภาษณ์พูดคุยกับโฮสต์ ผ่านทางโทรศัพท์ เป็นเวลาตื่นเต้นไม่แพ้กับการไปสัมภาษณ์งานทีต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ในออฟฟิศเลยค่ะ ธัญญ่าก็มีข้อนแนะนำยามสัมภาษณ์กับโฮสต์มาฝากเล็กๆ น้อย ๆ ดังนี้
1. ว่าด้วยเรื่องเวลา เนื่องจากเวลาที่ต่างกันระหว่างประเทศทำให้ ส่วนใหญ่ผู้สมัครออแพร์จะได้สัมภาษณ์โฮสต์ในเวลาที่เช้าตรู่ หรือ กลางดึกกลางดื่นนั้นก็เป็นได้ เพราะเนื่องด้วยจากเวลาที่ห่างกัน แต่อย่างไรเสียไม่ว่าเราจะได้คุยกับโฮสต์ช่วงเวลาใดก็ต้องถือว่าเป็นความตื่นเต้น
|
2. พยายามหามุมเงียบๆ กล่าวคือถ้าโฮสต์โทรมาโดยการนัดหมายเอาไว้ก่อน นั้นก็เป็นการดี เมื่อถึงเวลาที่นัดหมายคุยกัน ก็พยายามหามุมเงียบๆ ทีไม่เสียงดังเพื่อคุยกับเขา ในกรณีที่ไม่ได้นัดหมายและเขาโทรติดต่อมาหาเลย ก็จะต้องพยายามหามุมทีเงียบ ๆ เพื่อคุยกับเขา แ่ต่บ้างครั้ง คุณก็กำลังทำงานหรืออยู่ในย่านจอแจเสียงดังเหลือเกิน คุณควรขอโทษเขาอย่างสุภาพและบอกว่าให้ติดต่อกลับมาอีกครั้งตอนหัวค่ำหรืออีกกี่ชั่วโมงข้างหน้าก็แจ้งไป
3. อย่าเคี้ยวหมากฝรั่งหรืออมลูกอม อมก้อนน้ำแข็งเวลาคุยโทรศัพท์กับโฮสต์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะรบกวนบทสนทนาของคุณกับโฮสต์
4. ถ้าเราได้นัดหมายคุยกับโฮสต์ ก็จงพยายามโทรให้ตรงตามการนัดหมายเอาไว้
5. พยามแสดงความตื่นเต้นให้เขารู้ เมื่อทราบว่าเป็นเขาโทรมาในกรณีที่เราไม่ได้นัดหมายเอาไว้ สิ่งนี้สร้างความประทับใจ
6. คิดแง่บวกไว้เสมอ คิดเสมอว่าการคุยกันครั้งนี้ เราจะได้งานนะ เขาจะจ้างเรานะ อย่าเพิ่งท้อใจ ควรให้กำลังใจและคิดบวกไว้เสมอ
.jpg) |
7. ยิ้มเข้าไว้ สิ่งสำคัญทีสุดคือคุยไปด้วยก็ต้องยิ้มไปด้วย ยิ้มไปด้วยเวลาคุณคุย น้ำเสียงจะบ่งบอกออกมาว่าคุณมีความสุขทีได้คุยกับเขา
8. รู้ข้อมูลของโฮสต์ ข้อมูลของโฮศต์ทีเราควรรู้เบื้องต้นเลย คือเขามีลูกกี่คน ลูกแต่ละคนอายุเท่าไหร่ แล้วเป็นเพศอะไร เขาตั้งท้องหรือกำลังจะคลอดลูกอีกคนในเร็วๆ นี้หรือไม่ เขาประสงค์ต้องการให้เราเดินทางเมื่อไหร่ และเขาต้องการให้เราดูแลลูกเขาอย่างไรบ้าง สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลพื้นฐานทีเราควรทราบก่อนข้อมูลใดๆ
|
9. พยายามคุณให้เกียวข้องกับการทำงานกับเด็กเป็นหลัก ควรถามเรื่องการทำงานหรือกิจวัตรประจำวันของเด็ก หรือการดูแลลูกของเขาทีเขาทำอยู่ตอนนี้เป็นหลัก
10. ถ้าเด็กโตแล้วก็ขอคุณด้วยได้นะ
11. พยายามอย่าเอาเรื่องราวของโฮสต์คนอื่นหรือโฮสต์ก่อนหน้านี้มาเปรียบเทียบ ให้โฮสต์ทีเราคุยสัมภาษณ์ด้วยรู้ เพราะในบ้างครั้งการเปรียบเทียบหรือเล่าเรื่องราว ของโฮศต์ บ้านนั้นบ้านนี้ว่าเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ กลับกลายเป็นจุดที่ทำให้โฮศต์ ไม่ต้องการจ้างเราไปได้ เพราะด้วยคิดว่าเราก็คงจะไม่พอใจในสิ่งที่มีที่เป็น และอาจสร้างความเข้าใจผิดได้ว่าคุณเป็นคนช่างเปรียบเทียบตลอด การทีคุณจะพิจารณาสิ่งใดเปรียบเทียบ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ ทีคุณต้องตัดสินใจเอง
12. ไม่ต้องไปบอกว่าเรามีบ้านอื่นๆ ทีจะต้องสัมภาษณ์อื่น เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเรา
13. ฉันทำได้ ขายตัวเอง ต้องพยายามพูดถึงจุดดีข้อตัวเอง จุดแข็งของฉันคืออะไร ลองคิดว่าจุดแข็งของคุณคืออะไรมาสักสิบอย่างนะคะ่ แล้วเวลาคุยกับโฮต์ คุณจะสามารถนำเอามาใช้ได้ หลีกเหลี่ยงคำว่าฉันจะพยายาม เพราะนั้น หมายความว่าคุณไม่แน่ใจว่าทำได้หรือเปล่าและถ้าโฮศต์ต้องการคนที่มั่นใจว่า เขาทำได้ เขาก็จะไม่จ้างเราอย่างแน่นอน
14. ถ้าไม่เข้าใจคำถามให้คุณพูดย้อนในสิ่งทีได้ยิน หรือถามซ้ำ อย่าตอบไปเลยทั้งที่ไม่เข้าใจ เพราะการตอบไม่ตรงคำถามทำให้ดูว่าคุณไม่ฉลาด
15. เวลาพูดให้พูดเสียงดังฟังชัด อย่าหัวเราะหรือว่าพูดค่อยๆ เพราะทำให้เขารู้ว่าเราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
16. พยายามพูดในสิ่งที่เป็นตัวคุณเอง ถ้าสิ่งใดทำได้ หรือไม่ก็ขอให้ซื่อสัตย์ในการตอบ
17. มีคำอื่นให้ใช้มากกว่าคำว่า take care เวลาเขาถามว่าคุณทำอะไรมาบ้าง มีคำให้ใช้มากกว่าคำว่า take care คุณสามารรถใช้ คำว่า I managed, I was responsible for, I guided, I coordinated, I designed a schedule,I develop เป็นต้น
|
.jpg) |
18. คำถามทีควรถามโฮสต์ โฮสต์ก็มักจะถามเรากลับว่า มีอะไรจะถามเขาไหม ก็แนะนำเลยว่า ไม่ควรถามเรื่องเงินเดือน เพราะว่าเขาก็ต้องให้ตามกฏหมายอยู่แล้ว หากเขาจะให้เกินกว่านั้น เขาต้องเสนอออกมาแล้ว เพระาถือเป็นจุดดึงดูด ให้คนมาทำงานกับเขา ย่อมจะต้องเป็นสิ่งที่เขาเสนอมาก่อนเองอยู่แล้ว คำถามทีเราถามโฮสต์ ควรเป็นคำถามทีสร้างความประทับใจในตัวเราแก่เขา เช่น
o คุณเคยมีออแพร์มาก่อนไหม
o คุณรู้สึกอย่างไรกับออแพร์คนก่อนของคุณ
o จุดหลักของงานนี้คือดูแลใคร หรือทำอะไร ถ้ามีงานบ้าน แบ่งเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ หรือทำในจุดใดบ้าง
o กิจกรรมของครอบครัวคุณคืออะไร
o คุณอบรมลูกอย่างไร และคุณอยากให้ฉันอบรมลูกคุณแบบใด
19. ขอบคุณสำหรับเวลาที่คุยสัมภาษณ์กัน ทุกคร้งหลังจากจบการสัมภาษณ์อย่าลืมขอบคุณเขาทีสละเวลามาคุยกับเรา และก็ถ้าอยากได้งานนี้มาก ก็อย่าถึงกับไปอ้อนวอนเขาให้จ้าง แต่ก็ูพูดไปเลยว่า จากที่ได้คุยกับคุณมาก ฉันต้องการทำงานกับคุณ หวังว่าฉันจะได้มีโอกาสเป็นแนนนี่ที่โชคดีที่ได้ทำงานกับคุณนะค่ะ
20. หากคุณสนใจครอบครัวนี้หรือไม่อย่างไรก็ให้คุณแจ้งเอเจนซี่ของคุณได้เลย หลังจากการสัมภาษณ์สิ้นสุดลงค่ะ
สุดท้ายนี้ก็หวังว่า ทุกคนจะได้งานและโชคดีในการสัมภาษณ์นะคะ่
ด้วยรักจากใจ
ธัญญ่า