
เพื่อนออแพร์คนนี้ เธอมีชื่อว่า กิฟท์ กิฟท์เป็นคนลำปาง จบการศึกษาปริญญาตรี จาก มอ เชียงใหม่ อดีตออแพร์เมกา ปัจจุบันทำงานเป็นแนนนี่ที่ประเทศแคนาดาและได้พีอาร์ของแคนาดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาคุยกับเธอดีกว่าค่ะ
เส้นทางออแพร์ของกิฟท์เริ่มจากการเป็นออแพร์เมกา ที่รัฐอริโชน่าหนึ่งปี เลี้ยงเด็กผู้หญิงคนเดียวอายุเก้าเดือน กิฟท์กล่าวว่า กิฟท์ โชคดีสุดๆ เพราะได้โฮสต์ที่น่ารักมากๆ และสองปีก่อนกิฟท์ยังมีโอกาสกลับไปหาโฮสต์ด้วย กิฟท์กล่าวอย่างภูมิใจ
บ้านนี้มีกิฟท์เป็นออแพร์คนแรกและคนเดียว ธัญญ่าแอบแซวว่าสงสัยจะประทับใจออแพร์ไทยจัดเลยเข็ด กิฟท์ขำ แล้วตอบกลับว่า โอสต์แม่ทำงานจากบ้าน ก็เลยไม่เอาออแพร์ต่อค่ะ อีกทั้งเด้กก็โตเข้าโรงเรียนแล้ว แหม ออแพร์ไทยรอดตัวไป อิๆ
คำถามต่อมาคือ กิฟท์คิดจะมาแคนาดาตอนไหนอย่างไร
กิฟท์เล่าให้ฟังว่า ตอนอยู่เมกาจบโครงการออแพร์ ได้ทำการเปลียนสถานะเป็นนักเรียนกับ รร สอนภาษาที่ชิคาโก แต่ว่า ไม่รู้โชคดีหรือร้ายเพราะว่าการขอเปลียนสถานะไม่ผ่าน ทำให้กิฟท์เลือกเดินทางกลับเมืองไทย แล้วก่อนกลับกิฟท์ได้คุยกับเพื่อนที่อริโซน่าเขาก็แนะนำว่าไปเลี้ยงเด็กแคนาดาสองปีได้อยู่ถาวรที่นั้นด้วย กิฟท์เลยสนใจแล้วก็หาข้อมูลจากเว็บไทยออแพร์คลับมา จนได้มาทำงานที่แคนาดา ดั่งทุกวันนี้
กิฟท์บอกย้ำๆ เลยว่า พอได้มาทำที่แคนาดา ชีวิตของกิฟท์เปลียนแปลง ต้องยอมรับการปรับตัวคร้งยิ่งใหญ่มาก เพราะลักษณะการทำงานของพี่เลี้ยงเด็กแคนาดาแตกต่างจากทีอเมริกามาก ครอบครัวกำหนดและคาดหวังให้เราทำงานหลายอย่าง ตั้งแต่ทำอาหารให้คนทั้งบ้านทาน ทำความสะอาดบ้าน เลี้ยงเด้ก ซักผ้า มีหมาด้วยก็ต้องพาหมาออกไปเดินด้วย และตอนทำงานพอหมดเวลาก็ต่างคนต่างอยู่ เขาไปไหนไปทริปไปเที่ยวก็ไม่ได้มาชวนเราไป ซึ่งต่างจากตอนเป็นออแพร์ที่โฮสต์เวลาไปออกทริปเทียวไหนๆ เขาจะชวนไปด้วยตลอด รู้สึกช๊อคมากๆ กับการทำงานที่แตกต่างจากตอนเป็นออแพร์ ตอนเป็นออแพร์ดูแลเฉพาะเด็ก บ้านก็มีแม่บ้านมาทำ และที่เมกาจะมีความรู้สึกว่าเป็นเหมือนส่วนหนึงของครอบครัวมากกว่าแคนาดา
แต่พอเมื่อได้อยู่ไปก็เริ่มปรับตัวเข้าใจว่า เอ้อมันก็เป็นวีซ่าทำงานไม่ใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนเมกา รายได้เราก็ได้มกากว่าเป็นออแพร์ นายจ้างเขาก็ต้องคาดหวังผลของงานให้คุ้มค่าเงินเขา กิฟท์ทำความเข้าใจในข้อต่าง ปรับตัวปรับใจได้ในทีสุด
|
 |
และ โฮสต์เองก็ให้ความเคารพในตัวกิฟท์ จะใช้ให้ทำอะไรหรือขอร้องให้ทำอะไรก็จะพูดเพราะ พูดจาไม่มีหยาบคาย กิฟท์ก็ปรับตัวได้ในที่สุด แต่ก็ทำมาได้แค่ปีครึ่งก็ต้องหาบ้านใหม่ เพราะโฮต์แม่เขาคลอดลูกและออกมาดูแลลูกเอง
ชีวิตกิฟท์ก็เลยต้องเร่รอ่นไปบ้านทีสอง ก็เป็นบ้านทีเมืองคัลการรึ่เหมือนเดิม แต่ว่าโฮสต์พ่อได้งานที่จังหวัดออนตาริโอ กิฟท์เลยได้ย้ายตามมาจังหวัดนี้ด้วย กับบ้านทีสอง กิฟท์ได้ดูแลเด็กสองคน อายุสี่ขวบ กับ คนเล็กอายุเก้าเดือน ซึ่งกิฟท์ยอมรับว่าไม่ถนัดเลี้ยงเด็กโตเพราะที่ทำตอนอยู่เมกาและบ้านแรกก็เป็นเด็กเล็ก เด็กเล็กไม่มีปากเสียง อีกอย่างพอย้ายมาบ้านที่ออนตาริโอ ก็เรียกว่าอยู่บ้านนอก ไม่มีรถเมลล์ กิฟท์ก็ไมมีรถขับ ขับรถก็ไม่เป็น เลยอยากได้บ้านในเมือง สรุปทำได้ห้าเดือน เลยหาบ้านใหม่และเลือกที่จะกลับไปทีเมืองคัลการี่ที่เคยอยู่ดีกว่า
บ้านทีสามกิฟท์เลี้ยงเด็กสองคนอายุหนึ่งขวบ กับ หกขวบ เนื่องจากว่าชอบตอนสัมภาณ์ผ่านสไกป์ และบ้านเขาก็มีทำเลทีดีเดินทางได้สะดวกด้วยรถเมลล์ ก็เลยคิดว่าอยู่กันได้ และเป็นผลว่าอยู่กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เรียกว่าอยู่กันมาสองปีกว่าแล้ว
ธัญญ่าอยากถามเรื่องขอพีอาร์หรืออยู่ถาวรของแคนาดาบ้าง เพราะว่าทุกๆคนที่มาที่นี้รอคอยมาก แล้วก็ถือว่ากิฟท์โชคดีมากๆ ที่ได้มาอย่างรวดเร็ว
กิฟท์เล่าว่าเธอส่งเอกสารขอพีอาร์ปี 2010 แล้วปี 2011 ประมาณเดือนตุลาคมก็ได้รับ รวมแล้วรอประมาณ 14 เดือน ที่น่าขำคือกิฟท์ได้ใบทำงานอิสระมาก่อน แต่ว่าพอสองเดือนต่อมาก็ได้พีอาร์ กิฟท์กล่าวว่ายังไม่ได้ทันจะได้ใช้ใบทำงานอิสระอะไร ก็ได้พีอาร์มาสะแล้ว ถือว่าโชคดีจริงๆ
แล้วชีวิตหลังได้พีอาร์เป็นงัยบ้างค่ะ ธัญญ่าถามแบบขำๆ กิฟท์ตอบอารมณ์ดีตลอด ก็ทำงานกับโฮศต์ต่อ ยังไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้น้องสาวกิฟท์ก็มาเรียนที่คัลการี่ ก็พักอยู่กับกิฟท์ที่บ้านโฮสต์ด้วย เราก็เป็นครอบครัวที่ดีต่อกัน ก็อยากจะทำไปเรื่อยๆ และตอนนี้ กิฟท์ไปเรียนหลักสูตร Office administration เป็นหลักสูตรหกเดือนของรัฐบาล Calgary women association ตอนนี้ยังเรียนอยู่ กะว่าถ้าจบแล้วก็จะเริ่มหย่นเรซูเม่ต่อไป งัยธัญญ่าก็ขอให้ได้งานอื่นๆ สมใจที่ต้องการนะ กิฟท์พูดขำๆว่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะมีความสุขกับการทำงานกับโฮสต์ปัจจุบันอยู่แล้ว
"สรุปกิฟท์อยู่แคนาดามา สี่ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อ จริงๆ เลยค่ะ" กิฟท์กล่าวแบบดีใจและภูมิใจ พร้อมขำอยู่ตลอดเวลา
กิฟท์เคยคิดว่าจะได้พีอาร์จริงๆ จากการมาเป็นแนนนี่ไหม
กิฟท์ตอบว่า เชื่อมั่นมาตลอดว่าจะต้องได้ ก็แค่จะได้เร็วหรือช้า แต่โชคดีทีได้เร็ว
"และกิฟท์อยากฝากเพื่อนๆ ทุกคนที่สนใจมาทำงานพี่เลี้ยงเด็กต่างประเทศว่า ประเทศแคนาดาเปิดโอกาสให้กับคนต่างด้าวอย่างพวกเราได้มีสิทธิ์มาอพยพ และเขาก็ให้สวัสดิการ และ ข่วยเหลือหลายๆ ด้าน มาอยู่แล้วรู้สึกถึงความเท่าเทียบ กิฟท์ยืนยันว่า การมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กเป็นก้าวแรกที่ง่ายทีสุดสำหรับการพอยพมาแคนาดา"
กิฟท์ตบท้ายว่า "เป็นกำลังใจให้กับแนนนี่ที่ทำงานอยู่ในแคนาดา อย่าเพิ่งท้อแท้กับการทำงานนะค่ะ สิ่งทีได้รับคือพีอาร์จะคุ้มค่ามากมายค่ะ"
สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการคุยเพิ่มเติมกับกิฟท์ กิฟท์ยินดีที่อีเมลล์นี้ค่ะ almo_gift@yahoo.com
|
 |